12.28.2551

ทัศนคติ

วันนี้เฝ้าเดี่ยวใน มธ 6:16-24

ตาที่สว่าง ก็ทำให้ทั้งร่างกายสว่าง
แต่ตาที่มืด ก็ทำให้ทั้งร่างกายมืด

ทุกวันนี้สิ่งที่หลายๆ ตำรา พยายามสอน
เพื่อเปลี่ยนคนให้มีชีวิตไปสู่ความสำเร็จได้
ก็คือทัศนคติ
กรอบการมองโลก หรือเลนส์ในการมองของเรา
เป็นตัวการสำคัญในการกำหนดวิธีการคิดและการดำเนินชีวิต

พระเจ้าสอนถึงการเริ่มต้นเคลียร์ที่ตาของเราให้สว่างก่อน
ทัศนคติของเราต้องถูกต้อง ชัดเจน
มองโลกในแง่ดีก่อน
ถึงจะทำให้ทั้งหมดของชีวิต ดี และแข็งแรง

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
หลักการของพระองค์ทำให้เรามองโลกต่างจากที่ผ่านมาจริงๆ

12.27.2551

พระพรประจำวัน

1.พี่เอ็กซ์จาก AIA โทรมาหา ถามว่าโบสถ์อยู่ที่ไหน อยากไปเยี่ยม
โอ้ พระเจ้า ขอให้เขามารู้จักพระเจ้าจริงๆ เถอะนะคะ สัปดาห์นี้เลย

2.มะวานเจอพี่หมออุ้ย ได้กินข้าวฟรี!!

^_^

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ

ผู้เลี้ยงที่รัก

มธ 6:8-15

เฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้าเมื่อคืน
นอกจากจะอธิษฐานในสิ่งที่ตัวเองเป็นกังวลและห่วงใยแล้ว
ก็อธิษฐานในเรื่องที่พระเจ้าบอกให้อธิษฐานด้วย
ให้แผ่นดินพระเจ้ามาตั้งอยู่
ให้พระเจ้าประทานอาหารประจำวัน
ให้พระเจ้าทรงโปรดยกโทษและยกหนี้ในชีวิต
และขอให้เรายกโทษและยกหนี้ให้แก่คนรอบข้างเราได้ด้วย

ทำให้นึกถึงเพลงที่พูดถึง สดด 23 ที่บอกว่าพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยง
นมัสการพระเจ้าแล้วอุ่นใจจริงๆ

12.25.2551

25.12

Merry Christmas!!

รัศมีภาพจงมีแด่พระเจ้าสูงสุด
และบนแผ่นดินโลกจงมีสันติสุข
และสันถวไมตรี จงมีแด่มนุษย์ทั้งปวง

ท่าที

มธ 6:1-6

เมื่อเช้าเปิดพระคัมภีร์เพื่อจะเฝ้าเดี่ยว
ต่อจากคราวที่แล้ว ก็เป็นพระคัมภีร์ข้อนี้

พูดถึงการอธิษฐาน การปฏิบัติศาสนพิธีต่างๆ ที่หลายๆ คนมักจะทำเพื่อให้ตัวเองถูกมองว่าดี
แต่ว่าพระเจ้าไม่ได้พอพระทัยในการกระทำแบบนั้น

ทำให้นึกถึงเรื่องท่าทีในการทำสิ่งต่างๆ
ไม่ใช่ทำให้แก่มนุษย์
ไม่ใช่ทำเพื่อใครๆ เห็นว่าเป็นผลงานของเรา
หรือทำเพื่อให้เราภูมิใจในตัวเอง
โดยปราศจากความตั้งใจที่จะทำเพื่อถวายเกียรติพระเจ้าสูงสุด

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างทำเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า
อินเนอร์สุดๆ แล้ว ก็คือพระเจ้าผู้เดียวแหละ ที่รู้จักรู้ใจเรา
จะไปแคร์คนอื่นมากกว่าพระเจ้าเพื่ออะไร

12.21.2551

คริสต์มาสปีนี้แตกต่างจากที่ผ่านๆ มาอยู่พอสมควร
ทั้งความรู้สึกชีวิต ทิศทาง
และความหวัง ที่ควรจะเฟื่องฟู
ฟื้นฟูขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่ว่า ยังไม่ค่อยเห็นอะไรที่ตัวเองต้องการ
จริงอยู่ว่า...
เรามีเรื่องให้ขอบคุณพระเจ้าได้ทุกวัน
แต่ว่าเราก็มีเรื่องให้ต้องคิดและหาคำตอบทุกวันเหมือนกัน

+++.......+++.......

เหมือนจะไม่เกี่ยวแต่ว่ามันก็เกี่ยวนะคะ

คริสต์มาสปีนี้
ขอให้พระเจ้าเข้ามา
อย่างที่ไม่เคยเข้ามา
นะคะ


รอคอยและรอคอย
หวังใจและหวังใจ

รักพระเจ้าเยอะๆ นะ

ไม่รู้เหมือนกัน
การรักพระเจ้าให้เยอะคงมีอุปสรรคอยู่บ้าง
เวลาที่เราอยากทำตามใจตัวเอง

พอเราทำตามใจตัวเอง
แล้วเราก็จะรู้สึกผิด
ทั้งที่พระเจ้าไม่เคยไม่รักเรา
แต่เรากลับกลัว

ถ้ารักพระเจ้าได้มากกว่านี้
น่าจะทำตามใจตัวเองได้น้อยกว่านี้
แล้วก็รู้สึกผิดน้อยกว่านี้

พระเจ้าคะ
การทรงนำ
การทรงเรียก
นิมิต

ย้ำหมี่อีกทีนะคะ

จะได้รักพระเจ้ามากขึ้น

12.11.2551

กลับมาแล้ววว

ไม่ได้เขียนบล๊อคนี้มาตั้ง 2 เดือนกว่า
ไม่รู้จะเขียนอะไร

กลับใจแล้ว
เพราะว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ลึกซึ้งกับพระเจ้ามานาน
ถ้อยคำหลายๆ อย่างที่พระเจ้าพูดด้วย ก็ไม่เห็นความสำคัญ
ไม่เอามาลงบล๊อค

เรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะ
ถ้าจะให้เล่านะ
มากมาย มากมาย

สุดท้ายแล้ว ยังไม่เห็นว่ามีอะไรในชีวิต สำคัญกว่าการใกล้ชิดและติดสนิทกับพระเจ้า วันต่อวัน
ก็เลยกลับใจ ตั้งใจจะกลับมาเฝ้าเดี่ยวแสวงหาพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอจริงจังจริงๆ

มธ 5:21-26
อย่าเก็บความขุ่นเคืองหรือขัดแย้งอะไรไว้ในใจเลย
กล้าพูดคุยและเคลียร์ปัญหาให้จบสิ้นเถอะ
แล้วก็ ระวังด้วยนะ
คำพูดน่ะ


ขอบคุณพระเจ้าค่ะ

10.04.2551

เราจะเยี่ยมเยียนเจ้า!

ด้วยอาการหนักเหน็ดเหนื่อยมายาวนาน
ห่างไกลจากการแสวงหาพระเจ้าส่วนตัวมากเหลือเกิน
เมื่อคืนนี้ พระเจ้าก็เข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างอัศจรรย์
ในช่วงเวลาแห่งความท้อใจ

อสย 29:6
"พระเจ้าจะมาเยี่ยมเยียนเจ้า ด้วยฟ้าร้องและด้วยแผ่นดินไหว
และด้วยเสียงกัมปนาท
ด้วยลมบ้าหมูและพายุ
ด้วยเปลวแห่งเพลิงเผาผลาญ"

เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าในเวลาที่ฝนตกหนัก และพระเจ้าก็เข้ามาพูดด้วย
เยี่ยมเยียนด้วยเสียงฟ้าร้อง ที่เราสัมผัสความรักได้ พร้อมกับพระคัมภีร์ข้อนี้

เมื่อคืน ฝนตกหนักมาก มากๆ
ตกใจตื่น ออกไปเก็บผ้า กลัวจะปลิว
ขนาดตรงระเบียง ยังทำเอาเปียกไปทั้งตัว

แล้วก็เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้านอน
อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าควรจะลุกขึ้นมาอ่าน BB
....
ขณะนั้นเป็นเวลาตี 4
ยังไงก็ไม่รู้ ตลกดีจังเลย
รู้สึกว่าพระวิญญาณเร้าใจ ไม่อยากดับพระวิญญาณ
เลยลุกขึ้นมาอ่านพระคัมภีร์ ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องดังๆ แบบนั้น

ก่อนจะหยิบพระคัมภีร์ยังคิดเลยว่า...
หรือพระเจ้าจะพูดกับเราด้วยข้อพระคัมภีร์เดิม



ปรากฏว่า ใช่!
พระเจ้ามาเยี่ยมเยียนด้วยเสียงฟ้าร้องจริงๆ
ด้วยความที่ห่างพระเจ้าไปมาก
แล้วก็งอแง ไม่อยากทำในสิ่งที่พระเจ้าจะให้ทำ
คิดแง่ลบ บ่นตลอดเวลา

สัมผัสได้เลยว่าพระเจ้าไม่เห็นด้วยที่ทำตัวแบบนี้
แล้วพระเจ้าก็ไม่ได้ไปไหน

อ่านพระคัมภีร์ต่อไปอีก
พระเจ้าก็พูดด้วยเยอะแยะมากมาย

สอนให้เราเป็นคนที่มีสติปัญญา
ยอมรับรู้พระเจ้าในทุกทาง
เปิดตาใจ
และร้องทูลต่อพระองค์ในทุกสิ่ง

ตื่นเช้าขึ้นมาก็มีกำลังใจมากกว่าเดิม 77 เท่าเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะพระเจ้า
ไม่ลืมแน่ๆ สิ่งที่พระองค์พูดด้วย
หนูจะพยายามนะคะ

PS. อธิษฐานบอกพระเจ้าว่า ถ้าพระเจ้าตั้งใจจะพูดกับหนูจริงๆ ขอให้เสียงฟ้าร้องหยุด
.....
หยุดจริงๆ ด้วยยยยย
ตื่นเต้นที่สุดในโลก

8.14.2551

ขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่เป็นนิตย์

อย่าปล่อยให้จิตใจไร้ชีวิตชีวากับพระเจ้า
เวลาร่างกายอ่อนแอ หน้าตาก็จะคล้ายคนหมดแรง ใกล้ตาย
แต่เวลาที่จิตใจอ่อนแอ ทั้งหน้าตา อารมณ์ ความรู้สึก
รวมถึงการกระทำต่างๆ จะยิ่งคล้ายคนใกล้ตายได้มากกว่า

อ่านข้อพระคัมภีร์นี้แล้ว
ประทับใจจัง อยากมีกำลังใจ

ขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่เป็นนิตย์

8.07.2551

You are my wisdom

ผู้ที่มีปัญญาของพระเจ้า ปัญญานั้นจะปกป้องเขา
และผู้ยำเกรงพระเจ้า จะมีปัญญา

เคยคิดว่า ปัญญาจะปกป้องเราได้อย่างไร
ปกป้องเราจากอันตรายอะไรได้บ้าง
ปกป้องเราจะความชั่วร้ายได้แค่ไหน

ไม่รู้นะ มาลองดูกัน

เมื่อเรายำเกรงพระเจ้า และใส่ใจในสิ่งที่พระเจ้าปรารถนา
เราจะรู้ว่าพระเจ้าให้เราอยู่เพื่อสำแดงความรักและความดีของพระเยซู
หมี่คิดว่า มันจะทำให้เราจะวางตัวอย่างดี กับทุกบทบาท ทุกคนและทุกสถานการณ์
และจะทำให้เราปลอดภัยจากการคิดร้ายของผู้อื่น
(ยกเว้นว่า จะเป็นเวลาแห่งการข่มเหงที่พระเจ้าให้เจอ)

เมื่อเรารู้หลักการของพระเจ้าอย่างครบถ้วน
เราจะรู้ว่าวิธีการไหน ที่ควรใช้ในการตอบสนอง ณ เวลานั้น
และเราจะแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีการใด
เพื่อให้หลักการพระเจ้ายังถูกต้องทุกประการ
มันจะทำให้เราปลอดภัยจากความผิดพลาดที่อาจจะเกิดตามมาอย่างมากมาย
ถ้าเราใช้วิธีการที่ผิด

เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าเกลียดความบาป และคนที่ทำบาปจะต้องได้รับผล
ตระหนักได้ว่าผลเสียของความบาปแต่ละอย่าง
...จะเป็นอะไรได้บ้าง...
ตระหนักได้ว่าความบาปทำให้พระเจ้าเสียใจแค่ไหน
เราจะได้รับการป้องกันจากการทำบาป และจากการตกหลุมการยั่วเย้าของมาร

สติปัญญาของพระเจ้าปกป้องเราจากอันตรายทางกายภาพได้มากแค่ไหน

.
.
.
.

จงเชื่อว่า พระเจ้าจะรักษาโรคทุกอย่างของเราได้ ถ้าพระองค์จะทำ
เมื่อเราฟังเสียงพระเจ้าอย่างดีที่สุด เราจะรู้ว่าควรไปที่ไหน เมื่อไหร่ เพราะอะไร
และแม้เมื่อวันที่เราเจอกับอันตราย ที่เราไม่คาดคิด เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย...
จงรู้ว่า...พระเจ้าควบคุมอยู่
และใจที่ขอบคุณพระเจ้าได้แม้เจออันตราย...
นั่นน่าจะเป็นความปลอดภัยที่สุดในการเดินติดตามพระเจ้า

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
หนูปลอดภัยเสมอ เมื่อเดินกับพระองค์

8.02.2551

5 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่ตัดสินใจอยู่เพื่อคนอื่น

พระเยซูถามเปโตรว่า เจ้ารักเราหรือ จงเลี้ยงดูฝูงแกะของเราเถิด
พระเจ้าอยากให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อคนของพระองค์ ทั้งคนที่เชื่อ และคนที่ไม่เชื่อ
ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์กับคนอื่นให้มากที่สุด

แต่อย่างที่เคยแบ่งปันไปคราวก่อนนู้น
การจ่ายราคา ย่อมนำมาซึ่งผลตอบแทนอันดีเลิศ
ไม่ใช่แค่พาจิตวิญญาณคนอื่นมารอด
แต่สิ่งดีทั้งหมด จะย้อนกลับมาสร้างชีวิตของเราให้เติบโตขึ้นเอง

เมื่อเรามีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น

1.คิดถึงตัวเองน้อยลง
มนุษย์มักจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่พระเจ้าบอกให้เราคิดถึงคนอื่นให้มาก
เพราะเวลาที่คิดถึงคนอื่น มันเกิดความรัก ความเข้าใจ ผูกพัน
และ focus ที่ตัวเองน้อยลง

คนที่ focus ตัวเองมากๆ นี่ทรมานนะ จะบอกให้
อะไรไม่ได้ดั่งใจตัวเองก็เซ็ง อะไรไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ป่วยแล้ว
มีคนปฏิเสธก็เสียใจได้ง่ายๆ

แต่ถ้าเราคิดถึงคนอื่นมากขึ้น เราจะมีเวลาคิดถึงตัวเองน้อยลง และเราจะทุกข์น้อยลงนะ

2.คิดรอบคอบและครบถ้วนมากขึ้น
ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์เป็นปัญหาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
แก้ไขยากและต้องสร้างสรรค์เสมอ
การสร้างและเปลี่ยนแปลงคน ต้องมีกระบวนการที่เหมาะสมกับแต่ละคน
การใส่ใจคนรอบข้าง ก็เป็นรายละเอียดที่เยอะมาก
การรักคนและดูแลคนอย่างยุติธรรมก็ทำให้เราต้องคิดเยอะๆๆๆๆ

แบบนี้เราก็ต้องคิดเยอะมาก
(พระเยซูเดินทางไปหาคนตั้งเยอะตั้งแยะ มีคนมาทักรายทางก็หลายอยู่
ถ้าคิดไม่รอบคอบครบถ้วน มีหวังงานหลุด เพราะพระองค์งานเยอะมากจริงๆ)

3.รู้จักสื่อสารให้เป็นและเห็นคุณค่าการสื่อสาร
เวลาที่คนอื่นสื่อสารกับเราไม่ดี เราก็จะมีอารมณ์ขึ้นบ้าง เสียใจบ้าง
ซึ่งถ้าเราสื่อสารไม่ดี ไม่ครบถ้วนกับคนอื่น อาการแบบนี้ก็อาจจะเกิดกับคนรอบข้างที่เรารัก
ถ้าเราอยู่เพื่อเขา อยากเป็นพระพรกับเขา เราก็จะแคร์ แม้เรื่องเล็กน้อย
เราจะพยายามหาวิธีการสื่อสารที่ดีที่สุด ที่เหมาะกับคนแต่ละคน

และเช่นเดียวกัน บางทีคนที่เรารักไม่สื่อสารเราในบางเรื่อง ก็ทำให้เราเสียใจที่ไม่สามารถทำให้เขาวางใจได้
(ทั้งที่เขาอาจไม่คิดอะไรเลย)
อย่างนี้ เราก็จะรู้แล้วว่า ถ้าเราไม่คุย ไม่บอก ไม่สื่อสารกับคนที่เขารักเราหรือคาดหวังในตัวเรา
เราอาจจะทำให้เขาเป็นกังวล

การสื่อสารสำคัญมากสำหรับความสัมพันธ์นะคะ

4.ควบคุมตัวเองได้มากขึ้น
เราจะไม่ใส่อารมณ์กับใคร ถ้าเราแคร์ความรู้สึกเขา
ก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
ยิ่งถ้าเราอยากให้คนรอบข้างเราเห็นความรักและความดีของพระเจ้ามากขึ้น
เราจะมีแรงบันดาลใจอย่างอัศจรรย์ในการควบคุมตัวเอง
ให้เป็นแบบอย่าง ให้มีวินัย ให้ไม่ทำบาป
ไม่ใช่เพราะแกล้งเป็นคนดี
แต่เพราะเราจะทำให้เขาเห็นพระเจ้าผ่านชีวิตของเรา
(พระเยซูก็ควบคุมตัวเองให้ตื่นนอนมาอธิษฐาน และอดอาหารได้ตั้ง 40 วันแน่ะ)

5.ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น
อย่างที่บอก ปัญหาเรื่องคนเป็นเรื่องที่แก้ยากที่สุดแล้ว
บางทีเราเป็นห่วงเขาแค่ไหน หรือเห็นใจเขาแค่ไหน เราก็ทำอะไรไม่ได้
ได้แค่อธิษฐานกับพระเจ้า ยิ่งเป็นห่วง ยิ่งอธิษฐาน ยิ่งเข้าใจความรักพระเจ้า
ยิ่งใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสร้างสันติสุขให้แก่ชีวิตได้มากมายเหลือเกิน

นับข้อดีได้ครบ 5 ข้อนี้แล้ว
มาอยู่เพื่อคนอื่นกันเถอะค่ะ

6.29.2551

พระสหาย พระเจ้าของฉัน

วันนี้ที่โบสถ์จัดงาน Friends day
งานวันเพื่อน เพื่อตอกย้ำความเป็นเพื่อนที่สุดยอดของพระเยซู

เผอิญว่าต้องไปขายของให้แม่
มีเวลาแค่ได้นมัสการสั้นๆ เท่านั้นเอง

การนมัสการวันนี้ ทำให้กลับไปนึกถึงวันแรกที่มารู้จักพระเจ้า
คนที่ทำบาปมามากเท่าไหร่
ยิ่งเห็นพระคุณพระเจ้าในชีวิตมากเท่านั้น

เพราะพระเจ้าตายเพื่อเรา
เอาความบาปทั้งหมดในชีวิต... ออกไป
... พระเจ้ารักเราขนาดนั้น

เหมือนเป็นการให้โอกาสที่ไม่เคยสิ้นสุด
เป็นความรักที่ประหลาด และทำให้ชีวิตไม่เหมือนเดิม

แล้วเราจะหยุดสรรเสริญและหยุดรักพระเจ้าได้ยังไงนะ

ไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้
นอกจากว่าเขาจะได้รู้จักและรักพระเจ้าของเขา

พระเจ้าของเขา คือพระเจ้าองค์เดียวกับพระเจ้าของหมี่นั่นแหละค่ะ
สุดยอดมิตรสหาย
ใกล้ชิดกว่ามิตรใดๆ


รักพระเยซูที่สุดเลยค่ะ

6.27.2551

จ่ายราคา ---

เคยมีคำถามกับคำว่า "จ่ายราคา"
ในเมื่อพระเยซูให้ความรอดและชีวิตของพระองค์กับเราฟรีๆ
ทำไมเราต้องจ่ายราคาในการรับใช้พระเจ้า

เวลาที่เราไปซื้อของ
เราต้องควักเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เพื่อแลกกับของที่เราต้องการ
ก็คือการจ่ายเงิน
เราจะได้ของที่เราต้องการ

การจ่ายราคา เราควักบางสิ่งบางอย่างจ่ายออกไป
เพื่อได้บางอย่างกลับคืนมา

เราไม่ได้จ่ายอะไรเพื่อให้ได้ความรอด
แต่เราจ่ายราคา เพื่อให้ได้จิตวิญญาณของคนมาอยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า
เราจ่ายราคา เพื่อให้ได้รับสันติสุขและการอวยพร
เราจ่ายราคา เพื่อให้ชีวิตของเราเติบโตขึ้น

สิ่งที่เราจ่ายออกไป เทียบกับสิ่งที่ได้รับ
เรียกว่าคุ้มเกินคุ้ม

ตอนควักก็อย่าคิดให้มากนักก็แล้วกัน
ควักให้พระเจ้า ไม่ต้องกลัวสิ่งใด ^_^

6.19.2551

- - ชีวิตและภารกิจใหม่ - -

วันนี้ ที่ออฟฟิศจัดงานวันเกิดให้ประธานบริษัท พี่ศรัณย์
ประธานบริษัทของเราคนนี้เป็น Nice Guy มาก
มีสติปัญญา และชัดเจนในหลักการพระเจ้ากับทุกสิ่ง
ลงรายละเอียดกับชีวิตของคน และกับทุกๆ เรื่อง
รักใส่ใจคนภายใต้อย่างเห็นได้ชัด

พี่ศรัณย์แบ่งปันว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เครียดมาก
เพราะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น
มีอะไรใหม่ๆ เข้ามาให้ทำเต็มไปหมด
มีโอกาสได้เข้าไปมีผลต่อส่วนรวมระดับชาติ
และที่สำคัญ เป็นปีที่มีลูกด้วย (น่ารักเชียวล่ะ) ชีวิตก็ต้องปรับตัวหลายอย่าง
สุขภาพอ่อนแอลงไปบ้าง


หนึ่งปีที่ผ่านมา
เป็นหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและเติบโตของเราด้วย
เหมือนกับเป็นหนึ่งปีที่เรียนรู้จักพระเจ้าและรักพระเจ้าได้มากกว่า 3 ปีที่ผ่านมารวมกันซะอีก
การทำงานและการเรียนทุกอย่างในชีวิต
เหมือนถูกหล่อหลอมเพื่อเอามาใช้ในหนึ่งปีนี้

มีภาระความรับผิดชอบมากกว่าเดิม
ต้องเปลี่ยนหลายต่อหลายอย่างในชีวิต
เริ่มต้องดูแลแม่และน้องอย่างจริงจังมากขึ้น
และต้องวางแผนอนาคต คิดกับทุกสิ่งรอบตัวอย่างครบถ้วนและดีที่สุด
เหนื่อย และสุขภาพแย่ลง

เมื่อเรารู้จักพระเจ้า
พระเจ้าให้สิทธิเราเป็นลูกของพระองค์
เราได้รับชีวิตใหม่ ได้รับพระพร ได้รับทัศนคติ และสันติสุขที่เกินเข้าใจ
และในขณะเดียวกัน เราได้รับภารกิจและหน้าที่ใหม่
เป็นความอัศจรรย์ ที่พระเจ้าคาดหวังกับเราอย่างนั้น และเราก็สามารถจะทำได้
คือการรับผิดชอบโอกาสและพระพรที่พระเจ้าให้เข้ามาในชีวิต
ทุกอย่าง อย่างดีที่สุด

เพราะว่าเป้าหมายที่พระเจ้าให้ไว้ ก็ดีอย่างเหลือเชื่อและยิ่งใหญ่เกินจะคาดคิด
แต่เส้นทางที่ก้าวไปอาจจะไม่ได้ราบเรียบและสบายนัก
คนที่อดทนจนถึงที่สุด และก้าวไปด้วยความเชื่อ มั่นใจ ว่าพระเจ้าจะจัดเตรียมสิ่งที่ดีไว้ให้คนที่รักพระองค์
คนนั้นก็จะเห็นเป้าหมาย

หนึ่งปีที่ผ่านมา อาจจะกดดัน เหนื่อย เครียด วุ่นวายใจ ปรับตัวลำบาก งานเยอะ
หรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตของหมี่และพี่ศรัณย์
แต่ที่แน่ๆ
พระพรและความสุขในชีวิตมันก็มากขึ้นและมากขึ้น
มากกว่าที่เคยได้เห็นและได้รับ
ภารกิจที่ทำให้กับพระเจ้า เปรียบเทียบกับสิ่งที่พระเจ้าให้ทั้งก่อนและหลังความสำเร็จ

คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม...

ของคุณพระเจ้ามากๆ เลยค่ะ สำหรับผู้นำคนนี้
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักและสันติสุขจากพระองค์นะคะ

6.03.2551

- - ฉันร้องสรรเสริญ - -

ทุกครั้งที่เราสรรเสริญพระเจ้า
ในความรักมั่นคงของพระองค์
เราจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ที่พระเจ้ารัก ลงลึก และไม่เคยทิ้งเราไปไหน ไม่ว่าจะเป็นยังไง
อย่างน้อย ทุกครั้งที่เราผ่านและมองกลับไป
เราค้นพบว่า พระเจ้าทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรักเกินคาดเสมอ
และทุกสิ่ง คือสิ่งที่ดี
แม้ตัวเรา จะตอบสนองได้ไม่ดีเลยก็ตาม

ทุกครั้งที่เราสรรเสริญพระเจ้า
ในความยิ่งใหญ่ อัศจรรย์ น่ายำเกรงของพระองค์
เราจะนึกถึงเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้า
ที่มองไม่เห็น ไม่เข้าใจได้ทั้งหมดในตอนนี้
และเพิ่มพูนความเชื่อที่มีอยู่แล้ว
ให้มีมากขึ้นไปอีก
ความหวังใจ ก็ทำให้เดินกับพระเจ้าไปด้วยสันติสุข

ฉันร้องสรรเสริญ แม้ตะวันสาดส่องแสง และแม้ตะวันมืดมิด
สรรเสริญพระเจ้าค่ะ

5.24.2551

--เพื่อการเป็นพร--

เมื่อวันก่อน อธิษฐานกับพระเจ้าว่า
อยากมีชีวิตที่เป็นพระพรกับคนอื่น
เป็นที่พึ่งใหคนอื่นได้
ดูแลคนอื่นได้...



วันนั้น และต่อๆ มา
พระเจ้าตอบคำอธิษฐานด้วยการสอน
มีคนตักเตือนในสิ่งที่เราไม่ถูกต้อง
การพูดที่ไม่คิดถึงคนอื่น
การทำงานที่ไม่ได้เคารพการตัดสินใจหรือเส้นขงอคนอื่นที่ชัดเจน
การเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
และได้เรียนรู้จักอะไรอีกมากมาย


ข้อมุลที่อัดแน่นเต็มหัว
ทำให้เรารู้ว่าเราต้องเปลี่ยนแปลง
ต้องเติบโตขึ้น
ต้องรู้จักคนอื่น และความลึกซึ้งของจิตใจคนอื่นมากขึ้น

แล้วเราถึงจะเป็นพรให้กับคนอื่นได้มากกว่านี้

ขอบคุณพระเจ้า
ยินดีรับการสอน การตักเตือน และการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างค่ะ
(ถ้าช้าไปหน่อย ก็ขอพระเจ้าและพี่น้องรอหมี่ด้วยนะคะ >_<)

5.05.2551

รักพระเจ้า

เคยมีคนบอกว่า
เราเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย
นอกจาก...
รักพระเจ้า

ฟังๆ ดูแล้วอาจจะน่าเสียใจ
แต่ว่าคำนั้น ถูกจดจำมาถึงวันนี้
จำด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ
และจำด้วยความรู้สึกว่า
... ขอให้เป็นอย่างนั้นตลอดไป...

เกิดมาตั้งแต่เด็กก็ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรสักอย่าง
ร้องเพลงเพี้ยน เล่นดนตรีไม่เป็น
วิชาอะไรก็ไม่เด่นสักอย่าง
เป็นเป็ด ที่ว่ายน้ำเร็วกว่าชาวบ้านบ้าง
... ก็เท่านั้น ...

แต่ว่าเป็ดตัวนี้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่รู้จักพระเจ้าแรกๆ
ก็ไม่รู้ว่าทำไม ถึงไม่เลือกพระเจ้าไม่ได้

กลัวบาป กลัวพระเจ้าทำโทษ?
อาจจะมีบ้างมั้ง

แต่กลัวพระเจ้าเสียใจคงจะทำให้คิดหนักมากกว่า
ไม่ไปกับพระเจ้าไม่ได้ เพราะรู้ว่าพระเจ้าเป็นจริง

แต่มีความสุขกับพระเจ้าได้ ไม่ว่าอารมณ์ไหน สถานการณ์ใด
เพราะรู้ว่าพระเจ้ารัก
และเพราะรักพระเจ้า


แม้ไม่มีอะไรเลย
แต่รักพระเจ้า
ก็คงจะดีกว่ามีทุกสิ่งรอบกาย
แต่คุณค่าความรักพระเจ้า หายไปจากชีวิต

ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป รักพระเจ้าอย่างนี้ตลอดไปนะคะพระองค์
สดด 86

4.30.2551

We are in His hand!

หลายหลายครั้ง
เรามักจะรู้สึกว่าเราตัวใหญ่เหลือเกิน
มีสิ่งมากมาย ที่อยู่ในชีวิต อยู่ในความกังวล
ที่ไม่รู้จะทำยังไง
เราไม่มีทางดูแลได้ไหว

แต่ว่าพระเจ้าพูดด้วย
มีคนอีกหลายคน ที่มีเรื่องมากมายมากกว่านี้
และทุกคนอยู่ในการดูแลของพระเจ้าทั้งสิ้น
แล้วกับเรื่องของเรา
พระเจ้าก็คงไม่ทอดทิ้งหรือปล่อยไว้แน่นอน

คงต้องเรียนรู้จักการไว้วางใจ
วางใจอย่างที่ควรจะทำ

ขอบคุณพระเจ้า
เพราะชีวิตของเราอยู่ในอ้อมแขนพระองค์

4.16.2551

... first ...

Rinnah มีความหมายเกี่ยวกับการสรรเสริญ นมัสการ

เมื่อตอนกลางวัน
ได้นั่งเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความเข้าใจพระวจนะ
ซึ่งอาจจะไม่สามารถให้ใครๆ เข้ามาอ่านได้

ดังนั้น
ก็ถือเป็นการทักทายก็แล้วกันนะคะ

แล้วเราจะรู้จักกัน