10.18.2552

Sheep & Sheperd

ก่อนไปเข้าโบสถ์ที่นิวซองวั
นนี้ ได้ไปกินชาบูกับน้องสาวคนหนึ่ง
ไม่ได้เจอกันนาน คลาดนัดกันไป 2-3 รอบ
เจอกันแล้วก็คุยกันสัพเพเหระ ด้วยความคิดถึง

เรียกได้ว่าเป็นลูกแกะที่ขัดเกลานิสัยและมุมมองกันหลายๆ อย่าง
พี่เลี้ยงขัดเกลาลูกแกะ และแกะก็ขัดเกลาพี่เลี้ยง

ห่างหายกันไปสักพัก
ตอนนี้ ก็มีหลายเรื่องที่ลูกแกะตัวนี้มองได้ชัดกว่าพี่เลี้ยงซะแล้ว

ที่นิวซองแบ่งปันเรื่องราวใน ยอห์น 10
ว่าด้วยเรื่องของ "แกะ" และ "ผู้เลี้ยง"
แกะย่อมฟังเสียงผู้เลี้ยง พระเยซูบอกไว้
และผู้เลี้ยงที่ดี ย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน

หันมาถามตัวเองว่า ผู้เลี้ยงที่ดี เป็นอย่างไร
นิยามของคำว่าผู้เลี้ยงที่ดี จากที่เคยรู้มาตลอดว่า 1 2 3 4
ตอนนี้ ผู้เลี้ยงที่ดี จริงๆ แล้วเป็นอย่างไร

จากประสบการณ์ของตัวเอง

เมื่อรู้ว่าได้เป็นพี่เลี้ยงใคร
จะเกิดความรู้สึกเอ็นดูคนนั้นอย่างแปลกประหลาด
รักเหมือนคนในครอบครัว

หรือเมื่อรู้สึกรักใคร
จะเกิดความรู้สึกเหมือนอยากดูแลเขาเป็นลูกแกะ
อยาก treat เขาให้เติบโตในทางของพระเยซู แบบ automatic

ทั้ง 2 ประเภทนี้ ตายแทนได้หมด (ถ้ามั่นใจว่าเป็นน้ำพระทัยอะนะ)

เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า
หรือ "รัก" กับ "เลี้ยงดู" เป็นเรื่องเดียวกัน
เป็นผลต่อเนื่องตามธรรมชาติ

จำเป็นไหม ที่ต้องมีลูกแกะกี่คนเพื่อบอกว่า เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี
เราสามารถรักทุกคนแบบที่พระเจ้ารัก
และทำทุกอย่างเพื่อพาใึครก็ได้มาถึงพระเยซู
โดยไม่ต้องกะเกณฑ์วิธีและจำนวนได้ไหม
จะเลี้ยงดู ให้คำปรึกษา หรืออธิษฐานเผื่ออยู่ห่างๆ
เพียงพอไหม

หมี่เคยมีลูกแกะ 7 คนในเวลาเดียวกัน
ทุกครั้งที่พาแกะไปตามทางที่เราต้องการได้ไม่ครบ 7
ทำไมมันเจ็บปวดกับสิ่งที่หายไป
มากกว่าจะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่เราได้พยายาม
นิยามแบบนั้นอาจจะไม่ใช่หรือเปล่า

นิยามของการเป็นผู้เลี้ยงที่ดี สำหรับหมี่ ณ วันนี้
คือ เป็นลูกของพระเจ้าที่ฟังเสียงพ่อ
และอยู่เพื่อทุกคนที่พระเจ้าตั้งไว้ให้เราได้เจอบนโลกใบนี้ ให้ดีที่สุด

การได้ไปกินชาบูกับลูกแกะคนสวย ทำให้หมี่รู้ว่า
การมีลูกแกะ คือการแลกเปลี่ยนสิ่งดีที่เรามีเพื่อเติมพลังให้กัน
ไม่ต่างอะไรกับการใช้ชีิวิตกับเื่พื่อนร่วมโลกอะนะ



PS. I will use my inner ear for listening to The Voice, thank you, Maria.